ร้อง กมธ.แก้ปมแรงงานข้ามชาติ 14 ข้อ
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก น.ส.ปสุตา ชื้นขจร กองเลขาเครือข่ายแรงงานภาคเหนือ ยื่นข้อเสนอ 14 ข้อ เพื่อขอให้ คณะ กมธ. ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องแรงงานข้ามชาติในประเด็นต่าง ๆ โดยเฉพาะการขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติ จำนวน 14 ข้อ ดังนี้
1. ขอให้ดำเนินการแก้ไขนิยามของ “งาน” และ “แรงงาน” ให้ครอบคลุมแรงงานทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ทุกวัย โดยเร่งด่วน
2. ขอให้กระทรวงแรงงานกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านแรงงานข้ามชาติอย่างเป็นระบบในระยาว โดยจัดทำเป็นแผน 5 ปี หรือ 10 ปี และต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน ไม่มีการเลือกปฏิบัติและเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
3. ขอให้กระทรวงแรงงานจัดให้มีการขึ้นทะเบียนแรงงานรอบใหม่ เพื่อให้แรงงานข้ามชาติสามารถขึ้นทะเบียนได้
4. ขอให้เร่งดำเนินการเพื่อให้แรงงานสามารถอยู่ต่อในประเทศและทำงานต่อไปได้ หากพาสปอร์ต หรือ CI หมดอายุ เนื่องจากยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว และต้องไม่มีการเก็บค่าตีตราวีซ่าย้อนหลัง
5. ขอให้ออกกฎกระทรวงที่กำหนดให้แรงงานทุกคน ทุกอาชีพเข้าสู่ระบบประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ
6. ขอให้ปรับปรุงเงื่อนไขการเกิดสิทธิในกองทุนประกันสังคม โดยให้ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิได้ทันทีหลังจากที่มีการเข้าสู่ระบบประกันสังคม
7. ขอให้ดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวงการง่ายเงินบำเหน็จชราภาพของผู้ประกันตนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ให้แรงงานข้ามชาติในระบบประกันสังคมที่ต้องการกลับประเทศต้นทาง และไม่ประสงค์ที่จะพำนักในประเทศไทยอีกต่อไปสามารถยื่นรับเงินจากกองทุนบำเหน็จชราภาพได้ทันที
8. ขอให้เร่งจัดทำข้อเสนอต่อรัฐบาลให้มีการแก้ไขพระราชกำหนดการทำงานของคนต่างด้าว ปี 2561 ให้แรงงานข้ามชาติทำงานได้ทุกอาชีพตามความสามารถของตนโดยด่วน และขยายอายุการทำงานของแรงงานข้ามชาติ จนถึงอายุ 60 ปี
9. ในระยะเร่งด่วนขอให้ออกประกาศกระทรวงให้มีการเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับอาชีพ (2) งานช่างก่ออิฐ งานช่างไม้ หรืองานช่างก่อสร้างอาคาร ตามบัญชีประเภทที่ 3 ประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำให้เก็บเพียงรายการเดียวครอบคลุมตาม (2) และในระยะยาวขอให้ดำเนินการแก้ไขนิยามของงานกรรมกรก่อสร้างให้ครอบคลุมถึงอาชีพตาม (2) โดยไม่ต้องมาขออนุญาตเป็นรายอาชีพ
10. ให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานกำหนดแนวทางปฏิบัติโดยให้มีการอบรมอาชีพที่เหมาะสม ให้กับแรงงานทุกภาคส่วนทั้งแรงงานไทย แรงงานผู้สูงอายุ แรงงานผู้พิการ แรงงานกลุ่มชาติพันธุ์ และแรงงานข้ามชาติ
11. ขอให้เสนอและผลักดันให้รัฐบาลเร่งดำเนินการรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว ฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและการเจรจา ฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับลูกจ้างทำงานบ้าน และอนุสัญญา ILO ว่าด้วยการต่อต้านความรุนแรงและการล่วงละเมิดในโลกแห่งการทำงาน ภายในปี 2564
12. เร่งดำเนินการแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ให้คุ้มครองอาชีพ อาทิ พนักงานบริการ ลูกจ้างทำงานบ้าน แรงงานนอกระบบ แรงงานในภาคเกษตร ให้มีการจ้างงานกันตลอดทั้งปี
13. ขอให้มีการขยายอาสาสมัครต่างด้าว (อสต.) โดยให้ภาคประชาสังคม และแรงงานข้ามชาติเข้ามามีส่วนร่วมเป็นอาสาสมัครในการกำกับติดตาม แจ้งเบาะแสต่าง ๆ เพื่อให้การช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
14. ขอให้มีการตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติในระดับจังหวัด โดยคณะกรรมการดังกล่าวต้องมีส่วนร่วมจากองค์กรภาคประชาสังคม และกลุ่มแรงงาน และต้องมีการสนับสนุนงบประมาณในการจัดประชุม
นายสุเทพ กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในคณะ กมธ. ต่อไป และจะเร่งผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน โดยจะประสานไปยังกระทรวงแรงงานให้เร่งดำเนินการ เนื่องจากแรงงานข้ามชาติถือเป็นกำลังสำคัญในการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทย จึงสมควรได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
ที่มา : https://www.newtv.co.th