จับอีก 25 แรงงานพม่า ลอบเข้าไทย ตั้งใจไปทำงานตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร

จับอีก 25 แรงงานพม่า ลอบเข้าไทย ตั้งใจไปทำงานตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร

จับอีก 25 แรงงานพม่า ลอบเข้าไทย ตั้งใจไปทำงานตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร

ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เข้าปิดล้อมสวนปาล์มน้ำมัน จับกุม 25 แรงงานพม่า ลอบเข้าเมือง เดินเท้าลงมาจากป่าแนวเทือกเขาตะนาวศรี ตั้งใจจะไปทำงานตลาดกลางกุ้ง หลังเปิดให้บริการบรรยากาศคึกคัก เผยชุดจับกุมอยู่ระหว่างตามตัวอีก 3 รายที่ยังหลบหนี ขณะที่ จ.สมุทรสาคร ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ยังไม่นิ่ง เจอเพิ่มอีก 36 ราย มียอดสะสมจำนวน 16,449 ราย

จับอีก 25 แรงงานพม่า ลอบเข้าไทย ตั้งใจไปทำงานตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบคีรีขันธ์ สนธิกำลังปิดล้อมป่าสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่หมู่ 5 บ้านเนินแก้ว ตำบลอ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา แอบลักลอบข้ามแดนเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทย จึงนำกำลังเฝ้าติดตามจนพบกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวนกว่า 20 คน เดินเท้าลงมาจากป่าแนวเทือกเขาตะนาวศรี บริเวณช่องเขาหลัก หมู่ 5 บ้านเนินแก้ว แล้วเข้ามาแอบในป่าสวนปาล์มน้ำมัน และสวนยางพาราใกล้กับถนนพุไม้แก้ว เขตพื้นที่ ส.ป.ก.ปข.45902 เมื่อกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาเห็นเจ้าหน้าที่จึงตกใจแตกฮือเหมือนผึ้งแตกรังวิ่งหลบหนีกันคนละทิศละทาง

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองนำกำลังอาสารักษาดินแดน (อส.) พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน ช.ร.บ. ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบคีรีขันธ์ และทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ปิดล้อมป่าสวนปาล์มน้ำมันจนสามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา ได้มาทั้งหมด 25 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระ แบ่งเป็นชาย 16 คน หญิง 9 คน อายุประมาณระหว่าง 20 – 40 ปี และมีชาวเมียนมาที่ยังหลบซ่อนตัวเหลืออีก 3 คน เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุม เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา 2 ราย ในข้อหาลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนที่เหลือแจ้งข้อกล่าวหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

จากการสอบปากคำทราบว่า กลุ่มชาวเมียนมาที่จับกุมได้ส่วนใหญ่ เดินทางมาจากเมืองย่างกุ้ง จังหวัดมะริด และจังหวัดทวาย มีเป้าหมายปลายทางที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร จ.สุราษฎร์ธานี อ.ปราณบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นได้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายในเบื้องต้น เนื่องจากกลุ่มชาวเมียนมาเดินทางมาจากเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 และควบคุมตัวแรงงานทั้งหมดไว้ในรถห้องขังของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรอเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งนำไปตรวจหาเชื้อโควิด

นายคณพศ สายสกล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านเนินแก้ว เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้พยายามแกะรอยเท้ามาประมาณ 2 เดือนแล้ว แต่ก็ไม่สามารถจับกุมได้ เนื่องจากผู้กระทำผิดไหวตัวทันตลอด กระทั่งพบชาวเมียนมา ซึ่งเป็นผู้นำพากำลังเดินเท้าออกไปซื้อน้ำและเสบียงอาหารที่บริเวณร้านค้าใกล้เคียง จึงได้เข้าไปตรวจสอบ และพบมีพิรุธ ได้สอบเค้นเอาความจริงจนยอมรับ และนำพามาชี้จุดที่ซ่อนตัวของแรงงานทั้งหมดที่รอรถมารับ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งใจไปทำงานไปมหาชัย จ.สมุทรสาคร เนื่องจากตลาดกลางกุ้งได้เริ่มเปิดกิจการตามปกติแล้ว บางส่วนไปหาญาติที่ในโรงงานสับปะรดใน อ.หัวหิน และ อ.ปราณบุรี และบางส่วนไปรับจ้างกรีดยางที่ จ.สุราษฎร์ธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 24.00 น. ของวันที่ 3 มีนาคม 2564 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัด ระบุว่า พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 36 ราย จำแนกเป็นจากการค้นหาเชิงรุก 8 ราย เป็นคนไทย 2 ราย แรงงานต่างด้าว 6 ราย และในโรงพยาบาล 28 ราย เป็นคนไทย 11 ราย แรงงานต่างด้าว 17 ราย

สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมดมีจำนวน 16,449 ราย ขณะที่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มีคนไทยที่อยู่ในระหว่างการรักษาอีก 105 ราย แรงงานต่างด้าว 51 ราย และเฝ้าสังเกตอาการอีก 74 ราย และในส่วนที่รักษาหายแล้วกลับบ้านได้เป็นคนไทยรวม 2,678 ราย และต่างด้าว 1,270 ราย

ด้านผู้ที่ถูกกักตัวเพื่อเฝ้าสังเกตอาการจนครบตามระยะเวลาที่กำหนดแล้วไม่พบเชื้อสามารถให้กลับบ้านได้รวม 12,264 ราย เป็นคนไทย 182 ราย และคนต่างด้าวรวม 12,082 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตยังคงเดิมจำนวน 7 ราย.

ที่มา : https://www.thairath.co.th/