ตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว: ขั้นตอน เอกสาร 5 โรคต้องตรวจ ค่าใช้จ่าย และวิธีชำระเงิน
การตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว เป็นขั้นตอนสำคัญที่กฎหมายไทยกำหนด ก่อนแรงงานจะเริ่มทำงานในประเทศ เพื่อป้องกันโรคติดต่อที่อาจส่งผลต่อชุมชนและสถานประกอบการ อีกทั้งยังช่วยให้นายจ้างมั่นใจว่าแรงงานมีสุขภาพพร้อมปฏิบัติงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
1) เหตุผลและข้อกฎหมาย
การตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว ไม่ใช่เพียงแค่ข้อบังคับทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นมาตรการด้านสาธารณสุขที่สำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้มาทำงานในประเทศไทยไม่มีโรคต้องห้ามตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข และสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยต่อเพื่อนร่วมงานและสังคม
- ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอันตราย เช่น วัณโรค โรคเรื้อน และซิฟิลิส
- เป็นเอกสารสำคัญประกอบการขอและต่ออายุใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ซึ่งสามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้นผ่าน บริการด้าน Work Permit
- สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและคู่ค้า โดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหาร บริการ และการท่องเที่ยว
2) เอกสารที่ต้องใช้
สำหรับแรงงานต่างด้าว
- สำเนาบัญชีรายชื่อแรงงานจากประเทศต้นทาง (Name List) — สำหรับแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น การนำเข้าแรงงานลาว
- สำเนาเอกสารระบุตัวตน เช่น หนังสือเดินทาง / บัตรเดินทางคนต่างด้าว
- เอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity: CID)
- สำเนาบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (Non Thai Identification Card)
- สำเนาใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
สำหรับนายจ้าง
- สำเนาบัตรประชาชนของนายจ้าง
- สำเนาทะเบียนบ้านของนายจ้าง
- เอกสารประกอบอื่น ๆ เช่น หนังสือรับรองบริษัท หรือทะเบียนการค้า
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตั้งแต่ต้น จะช่วยให้ขั้นตอนตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่ต้องเดินทางหลายครั้ง
3) ขั้นตอนการตรวจสุขภาพ
- ลงทะเบียนและยื่นเอกสาร – เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและบันทึกข้อมูลเข้าระบบ
- ตรวจร่างกายทั่วไป – วัดส่วนสูง น้ำหนัก ความดันโลหิต ตรวจสายตาและการได้ยิน
- ตรวจเลือดและปัสสาวะ – ตรวจหาโรคติดต่อ เช่น ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบ รวมถึงตรวจหาสารเสพติด
- เอกซเรย์ปอด – เพื่อคัดกรองวัณโรคและโรคระบบทางเดินหายใจ
- สรุปผลและออกใบรับรองแพทย์ – ระบุผลว่า ผ่าน / ผ่านพร้อมเฝ้าระวัง / ไม่ผ่าน
4) 5 โรคต้องตรวจ
ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข มีโรคต้องห้ามที่แรงงานต่างด้าวจะต้องผ่านการตรวจ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทำงานในประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย
- วัณโรคปอด (Tuberculosis) – เอกซเรย์ปอด และอาจตรวจเสมหะเพิ่ม หากพบในระยะติดต่อจะไม่ผ่านการตรวจจนกว่าจะรักษาหาย
- โรคเรื้อน (Leprosy) – ตรวจร่างกายหาผื่นและความผิดปกติของผิวหนัง
- โรคเท้าช้าง (Lymphatic Filariasis) – ตรวจร่างกายและตรวจเลือดหาพยาธิ
- ซิฟิลิสระยะที่ 3 (Syphilis Stage 3) – ตรวจเลือดด้วยวิธี VDRL หรือ RPR
- การติดยาเสพติดให้โทษ – ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด
5) ค่าใช้จ่ายและประกันสุขภาพ
| รายการ | อัตรา | หมายเหตุ |
|---|---|---|
| ค่าตรวจสุขภาพ | 500 บาท/ราย/ครั้ง | ทุกช่วงอายุ |
| ประกันสุขภาพ 2 ปี | 3,200 บาท | แรกเกิด – ไม่เกิน 7 ปี |
| ประกันสุขภาพ 1 ปี | 1,600 บาท | แรกเกิด – ไม่เกิน 7 ปี |
| ประกันสุขภาพ 6 เดือน | 800 บาท | แรกเกิด – ไม่เกิน 7 ปี |
| ประกันสุขภาพ 3 เดือน | 500 บาท | แรกเกิด – ไม่เกิน 7 ปี |
6) วิธีชำระเงิน
- ชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
- ชำระที่จุดตรวจสุขภาพโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการ
7) รายชื่อโรงพยาบาล
- โรงพยาบาลรามาธิบดี — โทร. 02-2062900, 62960, 62962
- โรงพยาบาลพหลโยธิน — โทร. 02-3481000 ต่อ 1509, 1502
- โรงพยาบาลเลิดสิน — โทร. 02-3539742
8) คำแนะนำ
- ควร ตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว ทันทีหลังเข้าประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงและย่นระยะเวลาในการดำเนินเรื่อง
- เตรียมเอกสารให้ครบก่อนวันตรวจ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเวลา
- แจ้งโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบก่อนตรวจ
- เก็บใบรับรองแพทย์ไว้ใช้ต่ออายุใบอนุญาตทำงาน
บทความนี้ให้ข้อมูลเพื่อความเข้าใจทั่วไป โปรดตรวจสอบข้อกำหนดล่าสุดจากหน่วยงานราชการก่อนดำเนินการ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) : ตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว
ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว?
แรงงานต่างด้าว: Name List, หนังสือเดินทาง/บัตรเดินทาง, CID, บัตรคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย, ใบอนุญาตทำงาน (ถ้ามี)
นายจ้าง: สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, และเอกสารประกอบ (เช่น หนังสือรับรองบริษัท)
ตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว ตรวจโรคอะไรบ้าง?
หลัก ๆ 5 รายการ: วัณโรคปอด, โรคเรื้อน, โรคเท้าช้าง, ซิฟิลิสระยะที่ 3 และการติดยาเสพติดให้โทษ
ค่าตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพเท่าไร?
- ค่าตรวจสุขภาพ: 500 บาท/ราย/ครั้ง
- ประกันสุขภาพ: 2 ปี 3,200 บาท • 1 ปี 1,600 บาท • 6 เดือน 800 บาท • 3 เดือน 500 บาท (ช่วงอายุแรกเกิด–ไม่เกิน 7 ปี)
ชำระเงินอย่างไรได้บ้าง?
ชำระได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส และที่จุดตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการ
ต้องใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะได้ใบรับรองแพทย์?
โดยทั่วไปตรวจเสร็จภายในวันเดียว และรับผล/ใบรับรองภายในวันเดียวหรือ 1–3 วันทำการ (ขึ้นกับโรงพยาบาล)
ถ้าผลตรวจไม่ผ่านต้องทำอย่างไร?
โรงพยาบาลจะระบุเหตุผลและแนวทางรักษา เมื่อรักษาหายและตรวจซ้ำเป็นลบจึงสามารถดำเนินเรื่องใบอนุญาตทำงานต่อได้
ควรจองคิวตรวจล่วงหน้าหรือไม่?
แนะนำให้โทรจองคิวล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงต้น–กลางปีที่มีผู้ขอต่ออายุจำนวนมาก
กรณีแรงงานจากประเทศลาว เอกสารแตกต่างหรือไม่?
โครงสร้างเอกสารหลักเหมือนกัน แต่ต้องมี Name List ตามช่องทาง MOU ของประเทศต้นทาง รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ การนำเข้าแรงงานลาว
หลังตรวจสุขภาพแล้ว ดำเนินการ Work Permit ที่ไหน?
สามารถดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์/สำนักงานที่เกี่ยวข้อง หรือใช้ บริการด้าน Work Permit เพื่อให้ขั้นตอนรวดเร็วและถูกต้อง
ติดต่อโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการได้ที่ไหน?
- รามาธิบดี: 02-2062900, 62960, 62962
- พหลโยธิน: 02-3481000 ต่อ 1509, 1502
- เลิดสิน: 02-3539742
