ครม. เห็นชอบผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ ทำบัตรชมพู เป็นกรณีพิเศษ
ครม.ผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ กัมพูชา-ลาว-เมียนมา อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ 2 ปี
สำหรับรายละเอียดของร่างกฎกระทรวงมีสาระสำคัญดังนี้ กลุ่มที่มีนายจ้าง หรือสถานประกอบการ ประสงค์จ้างงาน รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ให้นายจ้างแจ้งรายชื่อคนต่างด้าวตามวิธีการที่กรมการจัดหางานกำหนดระหว่างวันที่ 15 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 และให้คนต่างด้าวเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด -19 และโรคต้องห้ามตามวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และประกันสุขภาพเป็นระยะเวลา 2 ปี ภายในวันที่ 16 เมษายน 2564
เมื่อผ่านการตรวจคัดกรองโควิด-19 และโรคต้องห้ามแล้ว ให้ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวตามวิธีการที่กรมการจัดหางานกำหนดภายในวันที่ 13 กันยายน 2564 และให้คนต่างด้าวไปจัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่มีใบอนุญาตทำงานอยู่ด้านหลังของบัตรตามวิธีการที่กรมการปกครองกำหนดภายในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564
ส่วนคนต่างด้าวที่ไม่ได้ทำงาน รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรอายุไม่เกิน 18 ปี ให้แจ้งแบบข้อมูลบุคคลตามวิธีการที่กรมการจัดหางานกำหนด ระหว่างวันที่ 15มกราคม 2564 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 และเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด-19 และโรคต้องห้าม และประกันสุขภาพระยะ 2 ปี ภายในวันที่ 16 เมษายน 2564 พร้อม จัดทำประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยภายในวันที่ 15มิถุนายน 2564
เมื่อผ่านการตรวจคัดกรองโควิด-19 แล้ว ให้นายจ้าง ที่ประสงค์จะรับเข้าทำงานยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวภายในวันที่ 13 กันยายน 2564 จากนั้นให้คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานไปปรับปรุงทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่มีใบอนุญาตทำงานอยู่ด้านหลังของบัตร ตามที่กรมการปกครองกำหนด
สำหรับผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ให้แจ้งรายชื่อหรือแบบข้อมูลบุคคลระหว่างวันที่ 15มกราคม2564 ถึงวันที่ 13กุมภาพันธ์ 2564 เข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด-19 และทำประกันสุขภาพระยะเวลา 2 ปี ภายในวันที่ 16 เมษายน 2564 และจัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2564
“ผู้ใดไม่ลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกกฎหมายในช่วงนี้ท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้จัดการเด็ดขาดตามกฎหมาย จึงเป็นโอกาสที่ดีที่นำแรงงานนอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบ”
สรุป แรงงานต่างด้าวที่สามารถทำได้ คือ
- แรงงานที่ไม่เคยมีพาสปอร์ต ไม่มีเอกสารใดเลย
- เปลื่ยนนายจ้างไม่ได้, แจ้งออกเกิน
- วีซ่าหมดอายุ
- เอกสารขาดต่อไปหลายปีก็กลับมา
- ต่อบัตรไม่ทัน หลุดรอบ เล่มเวิร์คเพอร์มิท, เล่มพาสปอร์ตขาด
- ขึ้นทะเบียน MOU 2 ปี, 4 ปี ไม่ทัน ขาด หรือ เกิน กำหนด
- ผู้ติดตาม = ทำได้
- ไม่มีนายจ้าง = ทำได้
เอกสารที่ต้องเตรียม
นายจ้าง
- บัตรประชาชน (สำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (สำเนา)
- ทะเบียนการค้า (ถ้ามี)
- หนังสือรับรองบริษัท (กรณีนิติบุคคล)
- รูปถ่ายกิจการ
- สัญญาเช่า + เอกสารผู้ให้เช่า (กรณีเช่าสถานที่)
ลูกจ้าง
- พาสปอร์ตหน้าแรก (สำเนา, ถ้ามี)
- บัตรประชาชน หรือ เอกสารของคนต่างด้าวตามสัญชาตินั้นๆ
- รูปถ่าย 1.5 นิ้ว พื้นหลังสีขาว จำนวน 4 ใบ
- ข้อมูลส่วนตัวของแรงงาน ชื่อ, อายุ, เพศ, น้ำหนัก, ส่วนสูง, ชื่อบิดา-มารดา, เมือง, ประเทศ
อัตราค่าบริการ
กรณีทั่วไป
-
ค่าตรวจโรค 6 โรค 2 ปี =1,000 บาท
-
ค่าตรวจโควิด = 3,000 บาท
-
ค่าประกันสุขภาพ 2 ปี = 3,200 บาท
-
ค่าธรรมเนียมคำขอและใบอนุญาตทำงาน 2 ปี ถึงวันที่ 16 กพ. 2566 = 1,900 บาท
-
ค่าทำทะเบียนประวัติ 20 บาท + ค่าทำบัตรชมพู 60 บาท
กรณีประมง
-
ค่าตรวจโรค 6 โรค 2 ปี =1,100 บาท
-
ค่าตรวจโควิด = 3,000 บาท
-
ค่าประกันสุขภาพ 2 ปี = 3,200 บาท
-
ค่าธรรมเนียมคำขอและใบอนุญาตทำงาน 2 ปี ถึงวันที่ 16 กพ. 2566 = 1,900 บาท
-
ค่าทำทะเบียนประวัติ 20 บาท + ค่าทำบัตรชมพู 60 บาท
-
ค่าหนังสือคนประจำเรือ 100 บาท
ขั้นตอนการดำเนินการ
กรณีมีนายจ้าง
กรณีไม่มีนายจ้าง